วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สรุป บทที่ 2 E-Business infrastructure 1 (Past1)

บทที่ 2
E-business infrastructure (Past 1)

          E-business infrastructure หมายถึง การรวมกันของฮาร์ดแวร์เช่น Server, Client PC ในองค์กรรวมถึงการใช้เครือข่ายในการเชื่อมโยงฮาร์ดแวร์เหล่านี้ กับการใช้งานซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการส่งมอบบริการให้กับผู้ใช้งานที่อยู่ในบริษัทและยังรวมถึงคู่ค้าและลูกค้าของตน
          Infrastructure ยังหมายถึงสถาปัตยกรรมทางด้าน Hardware,Software และเครือข่ายที่มีอยูในบริษัทด้วย และยังรวมไปถึงกระบวนการในการนําเข้าข้อมูลและเอกสารเข้าสู่ระบบ E-business ด้วย


Internet technology
          Internet ช่วยให้การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องที่เชื่อมต่อทั่วโลก อินเทอร์เน็ตเป็นระบบเชื่อมต่อขนาดใหญ่ในรูปแบบ Client / Server

Intranet applications
           Intranet ถูกใช้อย่างกว้างขวางเพื่อรองรับการขายในด้านธุรกิจ e-commerce โดยเน้นทํางานจากฝ่ายการตลาดเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกิจกรรมหลักของ supply-chain management โดยการตลาดเครือข่าย

Extranet applications
          Extranet เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้การเข้าถึงข้อมูล โดยการควบคุมจากภายนอกองค์กร สำหรับธุรกิจที่เฉพาะเจาะจง  และในการประยุกต์ใช้เอ็กซ์ทราเน็ตนั้น ข้อมูลซอฟต์แวร์จะถูกจํากดการเข้าถึง ของบริษัทโดยแสดงข้อมูลภายในให้กับผู้ใช้ภายนอก

Web technology
          Web หรือ World Wide Web คือขั้นตอนมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อมูลสาธารณะบนโลกอินเทอร์เน็ตโดยรูปแบบเอกสารพื้นฐานคือ HTML (Hypertext Markup Language) และ Web ยังเป็นการบริการหนึ่งที่เป็นรูปแบบต่างๆของการให้บริการทางอินเตอร์เน็ตสําหรับผู้พัฒนาเว็บ หรือผู้ที่ต้องการเขียนโปรแกรมเพื่อติดต่อสื่อสารผ่านเว็บ หรือ อินเตอร์เน็ต และผู้ใช้จะต้องรู้และเข้าใจถึงเรื่องเกี่ยวกับโปรโตคอล (Protocal) - มาตรฐานในการรับส่งข้อมูล





ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้งานอินเทอร์เน็ต
          การใช้บริการเว็บจะทํางานภายใต้ โปรโตคอล HTTPโดยโปรโตคอลจะเป็นตัวกำหนดวิธีการส่งข้อมูลหรือไฟล์ระหวางเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น Client และ Server รวมถึงการกำหนดกฏระเบียบในการติดต่อด้วย เราจะใช้โปรแกรมประเภท Browser เป็นตัวช่วยในการติดต่อสื่อสารได้ง่ายขึ้น

Internet
          อินเทอร์เน็ต หมายถึง ลักษณะของการเชื่อมต่อของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งเล็กและใหญ่จํานวนมากเข้าด้วยกัน โดยมีข้อกำหนดว่าทุกเครือข่ายที่เชื่อมต่อถึงกันจะต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานของการเชื่อมต่อโปรโตคอลที่ถูกสร้างขึ้ นมาเพื่อใช้งานบนเครือข่ายแบบนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเรียกว่า TCP/IP


Web browsers and servers
          เว็บเบราว์เซอร์ (web browser) เบราว์เซอร์หรือโปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกบข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น Internet Explorer , Mozilla Firefox ,Google Chrome เป็นต้น









Evolution Web 1.0, Web 2.0 to Web 3.0 (วิวัฒนาการของ เว็บ 1.0 เว็บ 2.0 เว็บ 3.0)

         Web 1.0 คือ ผู้เข้าชมสามารถอ่านได้อย่างเดียว ( Read-only ) เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ สามารถแก้ไขข้อมูลได้ เป็นเว็บที่ผ้เข้าเยี่ยมชมไม่สามารถมีส่วนร่วมกับเว็บดังกล่าวได้ ถือว่าเป็นเว็บรุ่นแรกของเทคโนโลยีเว็บไซต์ส่วนมากจะใช้ภาษา html (Hyper Text Markup Language) เป็นภาษาสําหรับการพัฒนา

          Web 2.0 คือ ผู้เข้าชมสามารถอ่านและเขียนได้ ( Read-Write ) เป็นเทคโนโเว็บไซต์ที่พัฒนาต่อจาก web 1.0เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ ซึ่งจะใช้ฐานข้อมูลมาเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี ด้วย

          Web 3.0 เป็นการนําแนวคิดของ Web 2.0 มาทําให้ Web นั้นสามารถจัดการข้อมูลจํานวนมากๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Metadata ที่หมายถึงข้อมูลที่บอกรายละเอียดของข้อมูล (Data about data) ทําให้เว็บกลายเป็น Semantic Web คือ ตัว Web จะทําหน้าที่ ประมวลผลข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นแล้วให้ Tags ตามความเหมาะสมให้เราแทน โดยข้อมูลแต่ละ Tagจะมีความสัมพันธ์กับอีก Tagหนึ่งโดยปริยายทําให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นฐานข้อมูล ความรู้ขนาดใหญ่ ที ข้อมูลทุกอย่างถูกเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบมากขึน



แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 2


แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 2


1. E-Business และ E-Commerce เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร



E-business คืออะไร

          E-Business คือ การดำเนินกิจกรรมทาง“ธุรกิจ”ต่างๆ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การใช้คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและอินเทอร์เน็ต เพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยลดต้นทุน  ขยายโอกาสทางการค้าและการบริการ



E-Commerce คืออะไร

         E-Commerce หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือการผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ยังหมายถึง ธุรกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ทั้งในระดับองค์กรและส่วนบุคคลบนพื้นฐานของการประมวลและการส่งข้อมูลดิจิทัลที่มีทั้งข้อความ เสียง และภาพ



        







2. หาความหมายของคำต่อไปนี้
 
Business-to-Business (B2B)
          
          หมายถึง ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ (Business to Business – B2B) คือการค้าระหว่างผู้ค้ากับลูกค้าเช่นกัน แต่ในที่นี้ลูกค้าจะเป็นในรูปแบบของผู้ประกอบการ จะครอบคลุมถึงเรื่อง การขายส่ง การทำการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain Management) ซึ่งจะมีความซับซ้อนในระดับต่างๆกันไป


Business-to-Customer (B2C)


          หมายถึง ผู้ประกอบการกับผู้บริโภค (Business to Consumer - B2C) คือการค้าระหว่างผู้ค้าโดยตรงถึงลูกค้าซึ่งก็คือผู้บริโภค เช่น การขายหนังสือ ขายวีดีโอ ขายซีดีเพลง เป็นต้น



Business-to-Business-to-Customer (B2B2C)


          หมายถึง เป็นการเชื่อมต่อ B2B และ B2C เข้าด้วยกัน นั่นคือ องค์กรธุรกิจขายให้องค์กรด้วยกัน แต่องค์กรจะจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าอีกทีหนึ่ง 



Customer-to-Customer (C2C) 


          หมายถึง ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer - C2C) คือการติดต่อระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภคซึ่งมีหลายรูปแบบ และมีวัตถุประสงค์เพื่อการติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ในกลุ่มคนที่มีการบริโภคเหมือนกัน หรืออาจจะทำการแลกเปลี่ยนสินค้ากันเอง เช่น การขายของมือสองเป็นต้น



Customer-to-Business (C2B)


          หมายถึง ผู้บริโภคกับผู้ประกอบการ คือการที่ลูกค้าระบุตัวสินค้าหรือบริการเฉพาะเจาะจงลงไปแล้วตัวองค์กรเป็นตัวจัดหาสินค้าหรือบริการให้ลูกค้า



Mobile Commerce 
 (M-Commerce) 


          หมายถึง การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงิน โดยผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือการค้าขายตามระบบแนวความคิดของระบบการค้าอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)  ที่ใช้อุปกรณ์พกพาไร้สายเป็นเครื่องมือในการสั่งซื้อและขายสินค้าต่างๆทั้งการสั่งซื้อสินค้าที่เป็นรูปธรรม หรือนามธรรม รวมทั้งการรับ-ส่งอีเมล์ สิ่งที่น่าสนใจและเป็นจุดที่น่าศึกษา โดย M-Commerce เป็นการแตกแขนงของเทคโนโลยีที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการขยายตัวของธุรกิจพาณิชย์อิเล็คทรอนิคส์ โดย M-Commerce จะช่วยเร่งอัตราการเติบโตให้กับการดำเนินธุรกรรมผ่านเครือข่ายอิเล็คทรอนิคส์ได้เร็วกว่าการใช้เทคโนโลยี E-Commerce  ขอบเขตของM-Commerce จะครอบคลุมทั้งการดำเนินธุรกรรมระหว่างผู้ดำเนินธุรกิจกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Business to Customer หรือ B2C) และระหว่างผู้ดำเนินธุรกิจด้วยกันเอง (Business to Business หรือ B2B)





วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สรุป บทที่ 1 Introduction to E-Business and E-Commrece


บทที่1

Introduction to E-Business 

and E-Commerce


          ปัจจุบันการสื่อสารมีบทบาทกับธุรกิจและส่งผลกระทบเกี่ยวกับการดำเนินงานของธุรกิจ และธุรกิจทุกวันนี้ส่วนมากนิยมใช้งานแบบ Virtual Worlds และ Social Network รวมถึงการนำเสนอสื่อรูปแบบต่างๆบนเว็บไซค์ และมีแนวโน้มในการใช้งาน Mobile Commerce สูงมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีระบบ LBS: Local Base Service ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์เพิ่มขึ้นด้วย


          โลกเสมือน (Virtual World): คือการจำลองสภาพแวดล้อมของธุรกิจไว้บนเครือข่ายออนไลน์ ซึ่งรองรับการใช้งานของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา หรือตลอด 24 ชั่วโมง

          Location Based Services (LBS): เป็นบริการอย่างหนึ่งที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไร้สาย ที่ทำให้บุคคลหรือองค์กรใดๆสามารถระบุตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้อุปกรณ์ไร้สายได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสามารถค้นหาสถานที่ คน สัตว์ หรือสิ่งของได้ทันที

          บริการเครือข่ายสังคม (Social Network Service) : เป็นรูปแบบของเว็บไซค์ในการสร้างเครือข่ายสังคมสำหรับผู้ใช้งานอนเทอร์เน็ต เพื่อเชื่อมโยงกับผู้อื่นเกี่ยวกับกิจการของตนเองที่ทำได้

          จากปัจจัยที่กล่าวมาทำให้รูปแบบการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันเปลี่ยนไป เพราะผลกระทบของการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์จึงทำให้เกิด E-Commerce ขึ้นมาจำนวนมากในยุคปัจจุบัน


          E-Commerce หรือ EC พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การโฆษณา ซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยวัตถุประสงค์ในการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร คือการลดองค์ประกอบของธุรกิจลง เช่่น ทำเลที่ตั้งอาคารประกอบการ พนักงาน รวมถึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลาลงได้


         E-Business หรือ EB ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ คือการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยการใช้คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร และอินเทอร์เน็ต เพื่อให้กระบวนการทางธุรกิจมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ท้นเวลา และยังช่วยลดค่าใช้จ่าย
         EI (Business Intelligence) คือการรวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านการตลาด ข้อมูลลูกค้าและคู่แข่ง
         ERM (Customer Relationship Management) คือการบริหารจัดการ การบริการ และสร้างความสัมพันธ์ที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจในสินค้าและบริการ 
         SCM (Supply Chain Management) คือการประสานห่วงโซ่ทางธุรกิจ ตั้งแต่แหล่งวัตถุดิบ ผู้ผลิต ผู้จัดส่ง ผู้ค้าส่ง-ปลีก จนถึงมือผู้บริโภค
ERP (Enterprise Resource Planning) คือกระบวนการของสำนักงานส่วนหลัง และการผลิต เช่น การรับใบสั่งซื้อ การจัดการใบส่งของ การจัดสินค้าคงคลัง แผนและการจัดการการผลิต






Buy-side e-commerce : E-commerce transactions between a purchasing organization and its suppliers.
                                        การทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างองค์กรที่จัดซื้อและผู้จัดจำหน่าย

Sell-side e-commerce : E-commerce transactions between a supplier organization and its customers.
                                        การทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างองค์กรผู้จัดจำหน่ายและลูกค้า